สนามม้ากับการแทงม้า มีแค่บ้านเราที่ซบเซาจริงหรือ?
ในทุกวันนี้เชื่อว่าคงไม่มีใครไม่เคยได้ยินถึงเรื่องการปิดตัวลงของสนามม้านางเลิ้งก่อนจะไปทำต่อเป็นสวนสาธารณะกันใช่หรือเปล่า เมื่อข่าวของสนามม้านางเลิ้งเผยแพร่ออกมา สนามม้าอื่น ๆ ก็ทยอยออกมาพูดถึงเรื่องความซบเซาของสนามม้าในประเทศไทยเช่นกัน ทั้งที่การแข่งม้าและการ แทงม้า เป็นหนึ่งในการพนันไม่กี่อย่างที่ได้รับการอนุญาตในประเทศแต่การปิดตัวลงของสนามม้าก็ไม่ได้หยุดลง จนเหลือเพียงไม่กี่แห่งตามจังหวัดใหญ่ ๆ ของไทยเท่านั้นเอง เห็นแบบนี้แล้วคนไทยอาจจะคิดว่าการแข่งม้าหรือการพนันแทงม้านี้อาจไม่ได้รับความนิยม แต่รู้หรือเปล่าว่าสนามม้าในต่างประเทศนั้นคึกคักขึ้นทุกวันผิดหูผิดตากับบ้านเราเลย SA365 จะพามาเปิดทัวร์กันดูว่าสนามม้าที่ไหนกำลังรุ่งโรจน์และคึกคักในปัจจุบันนี้
เกี่ยวกับสนามม้าในไทย
สนามม้าในไทยเริ่มจัดตั้งครั้งแรกหลังจากรัชกาลที่ 5 อยากจะเห็นการแข่งม้าแบบที่พระองค์เคยเห็นตอนเสด็จไปดูงานที่ยุโรปเมื่อปี พ.ศ. 2440 ซึ่งในประเทศไทยนั้นก็ได้จัดขึ้นที่สนามหลวง หลังจากนั้นไม่นานก็เกิดสนามราชกรีฑาสโมสรขึ้น เมื่อสนามราชกรีฑากลายเป็นที่นิยม สนามแห่งอื่น ๆ ก็ตามมาทั้งสนามไทย สนามม้านางเลิ้ง สนามม้าฝรั่ง สนามม้าขอนแก่น สนามม้าโคราช ฯลฯ
แต่เมื่อกาลเวลาเปลี่ยนผันมาเรื่อย ๆ ความนิยมของกีฬาแข่งม้าที่เคยมีก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ในยุคปัจจุบันมีเพียงคนเฒ่าคนแก่ที่ยังคงติดตามสนามม้าอย่างเหนียวแน่นเท่านั้น ซึ่งนับวันมีแต่จะลดน้อยถอยลงไปทุกที การแทงม้าก็ค่อนข้างยุ่งยากไม่เป็นที่นิยมอย่างกีฬาชนิดอื่น แม้การแทงม้าจะถูกกฎหมายแต่ก็ไม่ได้รับการสนับสนุนจากทางการเท่าที่ควร จนทำให้ทุกวันนี้กีฬาแข่งม้าและการแทงม้าค่อย ๆ เลือนหายไปจากสังคมไทย รอเพียงวันที่จะสูญหายไปเท่านั้นเอง
สนามม้าในต่างประเทศ
ในต่างประเทศสนามม้าค่อนข้างจะเป็นที่คึกคักต่างกับประเทศไทยอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งจะยกตัวอย่างให้เห็นง่าย ๆ สองสามประเทศ ดังนี้
1. ประเทศอเมริกา
การแข่งม้าในประเทศสหรัฐอเมริกานั้นไม่เพียงแต่จะไม่เงียบเหงาเท่านั้น ยังมีการแข่งขันอย่างยิ่งใหญ่ขึ้นทุกปีอีกต่างหาก อย่างรายการแข่งขัน The Kentucky Derby ซึ่งเป็นการแข่งขันม้าที่จัดขึ้นในเมืองหลุยวิลล์ ของรัฐเคนตักกี้ โดยจะจัดขึ้นในสนาม Churchill Downs อย่างไม่เคยขาด กระทั่งเมื่อปีที่ผ่านมาก็แค่เลื่อนการแข่งขัน ไม่ถึงขั้นยกเลิก แม้จะมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็ตาม
ยังไม่รวมการแข่งขันอื่น ๆ อีกมากมายในอเมริกาที่มีชื่อเสียงรองลงมา เป็นต้นว่า Breeders’ Cup Classic ถึงแม้จะไม่ใช่รายการแข่งม้าที่ยิ่งใหญ่เท่ากับเคนตั๊กกี้เดอร์บี้ แต่ก็ได้รับการขนานนามว่าเป็นการแข่งขันที่มีเงินสะพัดสูงที่สุดในโลก ไม่ว่าจะเป็นรางวัลในการแข่งขัน หรือกระทั่งอัตราการ แทงม้า ก่อนที่สถิติรางวัลและการหมุนเวียนเงินแทงม้าจะถูกล้มด้วยประเทศเศรษฐกิจอย่างดูไบ ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ก็ตาม
2. ประเทศอังกฤษ
ประเทศอังกฤษหรือสหราชอาณาจักรนั้นถือว่ากีฬาแข่งม้าถือว่าเป็นงานของเหล่าชนชั้นสูงมาตั้งแต่อดีตกาล จนทุกวันนี้ก็ยังคงได้รับความสนใจและการอุปถัมภ์จากราชวงศ์อังกฤษ สำหรับการแข่งม้าอันมีชื่อเสียงในเกาะอังกฤษก็คงจะไม่พ้น Royal Ascot ที่เป็นทั้งชื่อการแข่งขันและชื่อสนามแข่งม้า ซึ่งปัจจุบันเมื่อมีการแข่งขันนี้เมื่อไรคนจะตื่นเต้นฮือฮากันเหมือนมีงานเทศกาลยิ่งใหญ่เลยทีเดียว เงินรางวัลก็สูงสมกับที่ได้รับความนิยมและความสนใจ มีม้าแข่งสายพันธุ์ดีมากมายจากทั่วโลกให้เหล่านักพนันแทงม้าได้เลือกสรร อีกทั้งยังจัดการแข่งขันถึง 5 วัน ต่อให้แทงม้าแล้วเสียในวันนี้ก็ยังมีวันอื่นให้ได้แก้ตัว
แต่สำหรับคนชนชั้นสูงในอังกฤษนั้นไม่ได้สนใจการพนันแทงม้าอะไรนี้สักเท่าไรนัก เพราะจะต้องวุ่นอยู่กับการแต่งตัว เพราะการแข่งขันนี้จะมีราชวงศ์ของอังกฤษมาเยือนด้วย หากซื้อตั๋วในโซนไหนได้ก็จะต้องแต่งตัวตามกฎข้อบังคับของโซนนั้น ๆ จนดูแล้วเหมือนทุกคนแต่งตัวย้อนกลับไปในยุค 80’s อันเปี่ยมไปด้วยความเป็นผู้ดีอังกฤษกันเลยทีเดียว
3. ประเทศญี่ปุ่น
กล่าวถึงประเทศทางฝั่งทวีปอเมริกาและยุโรปกันมาแล้ว ลองกลับมาดูที่ประเทศเอเชียกันบ้าง ซึ่งประเทศที่ค่อนข้างน่าสนใจในเรื่องของกีฬาแข่งม้าก็คือญี่ปุ่น แม้ว่าการพนันส่วนใหญ่ของญี่ปุ่นจะผิดกฎหมาย แต่การแข่งม้าและการแทงม้าก็ได้รับการยกเว้นให้เป็นหนึ่งในการพนันที่เล่นได้อย่างโจ่งแจ้งคล้ายคลึงกับไทยเลย
แต่ประเทศญี่ปุ่นรับวัฒนธรรมาเร็วกว่าไทยกว่าสี่สิบปี เนื่องจากได้เริ่มการแข่งม้าครั้งแรกในปีพ.ศ. 2403 ในประเทศที่เล็กยิ่งกว่าอังกฤษหรือไทยอย่างญี่ปุ่นนั้นก็มีสนามม้าแข่งมากกว่า 10 แห่ง สำหรับสนามแข่งม้าที่ใหญ่ที่สุดและโด่งดังที่สุดก็คงเป็น Tokyo Racecourse สนามม้าในจังหวัดโตเกียว
ถึงอย่างนั้นสนามม้าโตเกียวแห่งนี้ก็ได้รับการกล่าวถึงในแง่ของการให้ความบันเทิงแบบเดียวกับสวนสนุกมากกว่าแหล่งพนันแทงม้า อีกทั้งเห็นได้ชัดว่าได้รับการสนับสนุนต่างจากไทยแค่ไหนเมื่อลองมองดูสนามม้าเก่าโทรมของไทยกับสนามม้าที่เต็มไปด้วยความสวยงามเป็นระเบียบเรียบร้อยของญี่ปุ่น ไม่เพียงเท่านั้นขนาดตั๋วแทงม้าของไทยที่ยังเป็นการซื้อกับคนขายตั๋วแทงม้าอยู่ ประเทศญี่ปุ่นก็ได้พัฒนามาเป็นตู้ขายตั๋วแทงม้าอัตโนมัติ สมกับเป็นประเทศที่มีตู้ไฟฟ้าให้บริการด้านต่าง ๆ มากที่สุดในโลก
อันที่จริงแล้วสนามม้าในไทยอาจจะได้การปฏิบัติอย่างประเทศอื่นบ้างก็ได้ถ้าหากมีผู้อุปถัมภ์อย่างอังกฤษ หรือเปลี่ยนให้เป็นสถานบันเทิงประเภทหนึ่งอย่างญี่ปุ่น ช่างน่าเสียดายจริง ๆ ที่สุดท้ายแล้วการแข่งม้าและการพนันม้าในไทยจะมาถึงยุคสิ้นสุดกันตรงนี้
แต่ถึงอย่างนั้นก็คงไม่ใช่ยุคสิ้นสุดของการพนันง่าย ๆ เพราะในบ้านเรายังคงมีเหล่านักพนันที่รักในการพนันประเภทอื่นอยู่อย่างมากมาย โดยเฉพาะในเว็บ SA365 เพียงเว็บเดียวก็ยังมีผู้คนเข้าใช้งานวันหนึ่งไม่ต่ำกว่าหมื่นคนอย่างไม่เคยจะแผ่วปลายเลยสักนาที